ศัลยกรรมผ่าตัดกราม ผ่าตัดลดขนาดกระดูกบริเวณกราม เพื่อโครงหน้าสวยได้รูป
โครงสร้างของใบหน้าส่วนล่างที่ทำให้ดูหน้ากว้าง บานใหญ่ กรามใหญ่ กรามเหลี่ยม เป็นรูปเหลี่ยม ซึ่งมักจะเป็นปัญหาของคนเอเชีย ลักษณะใบหน้าที่ดูบึกบึน แข็ง ไม่อ่อนหวาน ประกอบด้วยส่วนหลักๆ 2 ส่วน คือ ส่วนมุมของกระดูกขากรรไกรล่างยื่นออก และกล้ามเนื้อที่ใช่เคี้ยวอาหาร รวมถึงไขมันสะสมบริเวณแก้มช่วงล่าง สำหรับผู้ที่กังวลสามารถพบแพทย์เพื่อ ตรวจวิเคราะห์ให้ทราบแน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใด ซึ่งถ้าเกิดจากสาเหตุกระดูกขากรรไกรกว้างยื่นออก การผ่าตัดกราม คือคำตอบ หากเป็นเพราะกล้ามเนื้อ แก้ไขได้ด้วยการฉีดโบท็อกซ์ลดกล้ามเนื้อกรามลงได้ และ หากเกิดจากไขมันสะสม สามารถฉีดสลายไขมันหรือดูดไขมัน หรือรักษาแก้ไขร่วมกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่ปัญหาของแต่ละบุคคล
ผ่าตัดกรามดีอย่างไร ?
ซ่อมแซมแก้ไขใบหน้าตั้งแต่ส่วนกลางลงมาถึงส่วนล่างให้สมมาตรฐาน
ศัลยกรรมตัดกรามเหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่มีขากรรไกรล่างกว้าง
- ผู้ที่มีมุมกรามใต้หู
- ผู้ที่มีกรามโดยรวมขนาดใหญ่
- ผู้ที่มีใบหน้าไม่สมมาตรฐาน
ข้อควรรู้ก่อนการผ่าตัดกราม
1. ต้องเป็นผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป เพราะเป็นเกณฑ์อายุที่ร่างกายของคนส่วนใหญ่เจริญเติบโตเต็มที่แล้วกระดูกและโครงสร้างต่างๆของร่างกายคงที่ ไม่มีการเจริญเติบโตในเรื่องของโครงสร้างกระดูกอีกต่อไป
2. ต้องเป็นผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง
3. ไม่มีโรคประจำตัวที่ร้ายแรง
4.ใช้เวลาในการพักฟื้นหลังการผ่าตัด1-2วัน
5. ร่างกายจะกลับมาปกติและสมบูรณ์ที่สุดหลังเข้ารับการผ่าตัดไปแล้ว 3-6 สัปดาห์
6. ในช่วงแรกๆของการปรับโครงสร้างหน้าด้วย”การผ่าตัดกราม” อาจส่งผลให้ยิ้มได้ยากขึ้น หรืออาจเกิดอาการที่ริมฝีปากทำงานผิดปกติ เช่นเปิดปากได้ยากขึ้น ปากปิดไม่สนิท ปากเบี้ยว แต่ทุกอาการจะสามารถทุเลาลงได้ด้วยการกายภาพ และการฝึกฝนกล้ามเนื้อโดยรอบ ตามคำแนะนำของแพทย์และพนักกายภาพบำบัด
การผ่าตัดกราม สามารถทำได้ 2 วิธี คือ
1. การผ่าตัดกราม แบบซ้อนแผลภายในช่องปาก
เป็นการผ่าตัดกรามต้องใช้ความชำนาญของแพทย์ และผ่าตัดโดย ศัลยแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมตกแต่งเท่านั้น รวมไปถึงเครื่องมือที่ใช้ในการผ่าตัดได้ได้มารตราฐาน เนื่องจากการผ่าตัดในช่องปากเป็นการผ่าตัดที่มีพื้นที่แคบจึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ดังนั้นเครื่องมือที่ใช้ต้องมีขนาดเล็ก และ มีมาตรฐานประสิทธิภาพสูง
การผ่าตัดวิธีนี้จะเป็นที่นิยมกันมากกว่าเพราะไม่เห็นแผลเป็น นอกจากนั้นกระดูกกรามที่ได้จะโค้งเนียนสวยกว่าเพราะสามารถตัดแต่งได้ตลอดกระดูกขากรรไกร สำหลังเรื่องของอาการบวมหลังผ่าตัด การผ่าตัดในช่องปากจะมีอาการบวมมากกว่าคือประมาณ 5-10 วัน เพราะทำในที่แคบซึ่งยากกว่าและเนื้อเยื่ออาจชอกช้ำมากกว่า
ข้อดี : ไม่มีรอยแผลเป็น, สามารถตัดแต่งมุมกรามได้มากกว่า, สามารหลีกเลี่ยงเส้นประสาทได้ดีกว่าการเปิดแผลภายนอก
ข้อเสีย : มีอาการบวมมากกว่าการเปิดแผลภายนอก,การผ่าตัดภายในช่องปาก จำเป็นต้องรักษาเรื่องความสะอาดภายในช่องปากมากกว่าปกติ
2. การผ่าตัดกราม แบบเปิดแผลภายนอกช่องปาก
วิธีนี้ศัลยแพทย์จะทำการเปิดแผลที่มุมกรามด้านนอก หลังจากนั้น จะทำการตัดกระดูกกรามออก และ กรอเก็บมุมกราม ให้เล็กลงและได้รูปทรง หลังจากนั้นศัลยแพทย์จะทำการเย็บปิดแผล
ข้อดี : สามารถทำได้ง่ายกว่าวิธีผ่าตัดจากในช่องปาก, อาการบวมน้อยกว่าการผ่าตัดจากในช่องปาก
ข้อเสีย : เสี่ยงต่อการกระทบเส้นประสาทได้ง่าย, มีรอยแผลเป็นหลังการผ่าตัด
***ไม่ค่อยได้รับความนิยมในปัจจุบัน***
ขั้นตอน“ผ่าตัดกราม” V Line
1. ดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์
2. แพทย์จะผ่าตัดผ่านซอกเหงือกด้านหลังฟันกรามไปยังมุมกระดูกขากรรไกร แล้วใช้เครื่องมือซึ่งเป็นเลื่อยเล็กๆ ตัดตามตำแหน่งที่ต้องการ
3. ตัดกระดูกปลายขากรรไกรและที่คางออก 3 ส่วน
4. เอากระดูกตรงกลางที่ทำให้คางดูใหญ่และทู่ออก
5. เลื่อนกระดูกคางสองด้านเข้าด้านในและยึดให้ติดกัน เท่านี้คางก็จะเรียวแหลม
6. เย็บปิดปากแผลภายในช่องปาก
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการ“ผ่าตัดกราม”
1. งดรับประทานยาละลายลิ่มเลือด (กลุ่มยา Aspirin, Ibuprofen) วิตามินเอ อี ซี สมุนไพร โสม ใบแปะก๊วย น้ำมันปลา ก่อนรับบริการ 2 สัปดาห์
2. งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์
3. งดอาหาร ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
4. กินอาหารให้พออิ่มก่อนเข้ารับการศัลยกรรม เพราะหลังการศัลยกรรมแล้วมักกินอะไรไม่ได้มาก
การดูแลหลัง“ผ่าตัดกราม”
1. ประคบความเย็น ในช่วง 1-3 วันแรก เพื่อลดอาการบวม หลังจากนั้นอาการบวมจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ โดยทั่วไป อาการบวมมักจะยุบลงและได้รูปร่างของคางใหม่เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1-3 เดือน
2. ควรนอนยกศีรษะสูงในช่วง 1 สัปดาห์แรก
3. ประคบด้วยอุ่นหลังจากการผ่าตัดประมาณ 1-2 สัปดาห์เพื่อลดรอยเขียวช้ำหายเร็วขึ้น ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้
4. ทานยาแก้ปวด ลดบวม ตามที่แพทย์แนะนำ
5. ระมัดระวังการกระทบกระเทือนบริเวณกราม โดยเฉพาะในช่วงเวลา 3-4 สัปดาห์แรก
6. รับประทานอาหารอ่อน งดอาหารแข็งหรืออาหารที่ต้องใช้แรงบดเคี้ยว ในช่วง 1 เดือนแรก
7. งดสูบบุหรี่ ในช่วง 1 เดือน หลังการผ่าตัด
8. รักษาความสะอาดของช่องปากด้วยการแปรงฟันเบาๆ เพื่อขจัดเศษอาการตกค้างซึ่งจะทำให้เกิดการอักเสบได้
ทำไมต้อง“ผ่าตัดกราม” W Plastic Surgery Hospital?
- แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งและความงาม
- ใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัย ได้มาตรฐานมีคุณภาพสูงสุด พร้อมทั้งใช้เทคนิคการทำที่ปลอดภัย
- เป็นสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ระดับโรงพยาบาลสามารถนอนพักฟื้นเพื่อเพื่อเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด
ถาม - ตอบ
1. กระดูกจะเชื่อมติดกันสนิท ใช้เวลานานมั้ยคะ?
ตอบ กระดูกเชื่อมติดสนิทใช้เวลาประมาณ 6-8 สัปดาห์ค่ะ
2. อาหารที่ควรทานหลังการผ่าตัด
ตอบ เน้นอาหารอ่อนๆ ที่ไม่ต้องเคี้ยวมาก เพื่อลดการทำงานของกรามค่ะ เช่น ข้าวต้ม ก๋วยเตี๋ยวสับละเอียด หรือซุปต่างๆ
3. ต้องมาตัดไหมในช่องปากมั้ยคะ?
ตอบ ไหมในช่องปากจะเป็นไหมละลาย ซึ่งจะค่อยๆหลุดไปเอง ในระยะเวลาประมาณ 2 เดือนค่ะ ส่วนไหมภายนอกบริเวณหน้าหูซ่อนตามไรผม จะเป็นไหมที่ต้องตัดออก ครบ 7 วันตัดไหมค่ะ
4.แล้วเราจะรู้ได้ยังไงคะ ว่ากรามของเราจำเป็นต้องเปิดแผลด้านนอกรึเปล่า
ตอบ ไม่สามารถบอกได้ค่ะจนกว่าจะเปิดแผลผ่าตัดในช่องปาก ว่าสามารถตัดกรามได้โดยเปิดแผลในปากได้อย่างเดียวเลยรึเปล่า? แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากไม่มีความจำเป็นจริงๆ ศัลยแพทย์จะไม่เปิดแผลภายนอกช่องปากค่ะ
5.จัดฟันแล้วสามารถผ่าตัดยุบโหนก วีไลน์ได้หรือไม่?
ตอบ สามารถทำได้ค่ะ เพียงแต่ต้องดูแลรักษาทำความสะอาดในช่องปากมากกว่าคนทั่วไปเท่านั้นเอง เพราะอย่างที่บอก แผลผ่าตัดอยู่ในปาก การบ้วนปากทุกครั้งด้วยน้ำเกลือหลังรับประทานอาหาร จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณแผลผ่าตัดในช่องปากค่ะ
6. การดูแลรักษาตัวเองหลังการผ่าตัด มีอะไรบ้าง?
ตอบ หลักๆ คือการดูแลรักษาความสะอาดในช่องปากด้วยการบ้วนน้ำเกลือหรือน้ำยาบ้วนปากผสมน้ำเปล่า หลังอาหารทุกครั้งค่ะ และการใช้ผ้ารัดหน้าอย่างสม่ำเสมอในช่วง 1 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด
7. หลังผ่าตัดกรามใช้เวลาพักฟื้นกี่วัน
ตอบ 7 วัน
8. หลังผ่าตัดกราม นานเท่าไหร่หน้าถึงเข้าที่หายเป็นปกติ
ตอบ 1-3 เดือน
9. การผ่าตัดกรามจะมีปัญหาด้านการคบเคี้ยวอาหารภายหลังหรือไม่
ตอบ ไม่มีปัญหาด้านการเคี้ยวหลังการผ่าตัด